การส่งบทความ

เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน เพื่อส่งบทความ

ข้อกำหนดการส่งบทความ

ในขั้นตอนการส่งบทความ ผู้แต่งต้องตรวจสอบและยืนยันว่าปฏิบัติตามข้อกำหนดการส่งบทความทุกข้อ บทความที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดอาจถูกส่งคืนให้ผู้แต่งดำเนินการแก้ไข
  • จริยธรรมการวิจัยและการตีพิมพ์ผลงานในวารสารนวพุทธศาสตร์ (Journal of Modern Buddhist Studies: jMBS)
    (ปรับปรุงจาก https://publicationethics.org/)
    บทบาทและหน้าที่ของผู้เขียนบทความ
    1. ผู้เขียนบทความต้องไม่ส่งต้นฉบับที่ซ้ำซ้อนกับวารสารอื่น หรืออยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาของวารสารอื่น
    2. ผู้เขียนต้องยึดถือจริยธรรมการวิจัยอย่างเคร่งครัด และต้องไม่คัดลอกผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง (Plagiarism)
    3. ผู้เขียนต้องจัดทำต้นฉบับบทความตาม “คำแนะนำสำหรับผู้เขียน” ของวารสารนวพุทธศาสตร์
    4. ผู้เขียนทุกคนที่มีรายชื่อในบทความต้องมีส่วนร่วมในการจัดทำบทความหรือในการดำเนินการวิจัย
    5. ผู้เขียนต้องอ้างอิงผลงาน ภาพ ตาราง หรือข้อมูลต่าง ๆ ที่นำมาใช้ในบทความ พร้อมระบุแหล่งที่มาอย่างชัดเจนเพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ (หากมีข้อพิพาททางกฎหมาย วารสารจะไม่รับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น ผู้เขียนต้องรับผิดชอบเองโดยตรง)
    6. ผู้เขียนต้องตรวจสอบความถูกต้องของรายการเอกสารอ้างอิง และอ้างอิงเท่าที่จำเป็นอย่างเหมาะสม
    7. ผู้เขียนต้องแก้ไขบทความตามข้อเสนอแนะของผู้ทรงคุณวุฒิและกองบรรณาธิการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด
    8. ผู้เขียนต้องระบุแหล่งทุนสนับสนุน (ถ้ามี) และผลประโยชน์ทับซ้อน (Conflict of Interest) หากเกี่ยวข้อง
    9. ผู้เขียนต้องไม่รายงานข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ไม่สร้างข้อมูลเท็จ ปลอมแปลง บิดเบือน หรือตกแต่งข้อมูลให้สอดคล้องกับข้อสรุปของตนเอง
    10. ผู้เขียนไม่ควรอ้างอิงเอกสารที่ถูกถอนออกจากฐานข้อมูลทางวิชาการ เว้นแต่เพื่ออ้างอิงในบริบทที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการถอนบทความ และต้องระบุสถานะว่าเป็น “เอกสารที่ถูกถอนออก” ในรายการอ้างอิงอย่างชัดเจน
    บทบาทและหน้าที่ของบรรณาธิการวารสารนวพุทธศาสตร์
    1. บรรณาธิการมีหน้าที่พิจารณาคุณภาพของบทความที่ส่งมาตีพิมพ์ โดยยึดหลักความถูกต้อง ชัดเจน และความสอดคล้องกับนโยบายของวารสารเป็นสำคัญ รวมถึงเนื้อหาต้องมีคุณค่าทางวิชาการ สะท้อนแนวคิดเชิงทฤษฎีใหม่ ๆ หรือแบบจำลองเชิงแนวคิด (Conceptual Model) ที่ช่วยพัฒนาความรู้และก่อให้เกิดการวิจัยในอนาคต
    2. บรรณาธิการต้องไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้เขียนและผู้ประเมินบทความต่อบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องระหว่างกระบวนการพิจารณา
    3. บรรณาธิการต้องตรวจสอบการคัดลอกผลงานของผู้อื่นโดยใช้โปรแกรมที่เชื่อถือได้ และไม่พิจารณาตีพิมพ์บทความที่เคยตีพิมพ์ที่อื่นมาก่อน หากพบการคัดลอกผลงานต้องระงับกระบวนการพิจารณาทันทีและแจ้งผู้เขียนเพื่อขอคำชี้แจง
    4. บรรณาธิการต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้เขียนหรือผู้ประเมินบทความ
    5. บรรณาธิการต้องไม่นำข้อมูลจากบทความที่อยู่ระหว่างการพิจารณาไปใช้เป็นผลงานของตนเอง
    6. บรรณาธิการต้องพิจารณาตีพิมพ์เฉพาะบทความที่มีระเบียบวิธีวิจัยที่ถูกต้องและผลการวิจัยน่าเชื่อถือ
    7. หากพบการลอกเลียนหรือปลอมแปลงข้อมูล และผู้เขียนปฏิเสธที่จะถอนบทความ บรรณาธิการมีสิทธิถอนบทความนั้นโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้เขียน เพื่อรักษามาตรฐานของวารสาร
    บทบาทและหน้าที่ของผู้ประเมินบทความ (Peer Reviewers)
    1. ผู้ประเมินต้องรักษาความลับของบทความและไม่เปิดเผยข้อมูลต่อบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง
    2. หากผู้ประเมินตระหนักว่าตนมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้เขียนจนไม่สามารถให้ความเห็นอย่างอิสระได้ ต้องแจ้งบรรณาธิการและปฏิเสธการประเมินบทความนั้น
    3. ผู้ประเมินควรประเมินบทความในสาขาที่ตนมีความเชี่ยวชาญ โดยพิจารณาจากความสำคัญทางวิชาการ คุณภาพของการวิเคราะห์ และควรแนะนำเอกสารที่เกี่ยวข้องซึ่งผู้เขียนยังไม่ได้อ้างถึง ทั้งนี้ต้องใช้ข้อมูลวิชาการเป็นเกณฑ์ ไม่ใช่ความคิดเห็นส่วนตัว
    4. ผู้ประเมินต้องไม่นำข้อมูลจากบทความที่ประเมินไปใช้เป็นผลงานของตนเอง
    5. หากพบว่ามีส่วนใดของบทความมีความซ้ำซ้อนกับผลงานอื่น ๆ ผู้ประเมินต้องแจ้งให้บรรณาธิการวารสารทราบทันที
    หมายเหตุ: วารสารนวพุทธศาสตร์ (Journal of Modern Buddhist Studies: jMBS) ยึดถือหลักจริยธรรมสากลของคณะกรรมการจริยธรรมการตีพิมพ์ (Committee on Publication Ethics: COPE) เป็นแนวทางสำคัญในการดำเนินงาน เพื่อให้บทความที่เผยแพร่มีคุณภาพและเชื่อถือได้

คำแนะนำผู้แต่ง

คำแนะนำสำหรับผู้เขียน

คำแนะนำเบื้องต้นสำหรับผู้เขียน   

          ผลงานที่ขอรับการตีพิมพ์ในวารสาร นวพุทธศาสตร์ จะต้องไม่เคยตีพิมพ์หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อตีพิมพ์ในวารสารอื่น ผู้นิพนธ์ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของวารสาร และรูปแบบการเขียนบทความวิชาการ บทความวิจัย เพื่อตีพิมพ์ในวารสารอย่างเคร่งครัด โดยผู้นิพนธ์จะต้องลงทะเบียนในระบบของวารสาร และส่งบทความมาในระบบ โดยผู้เขียนจะต้องตรวจสอบความสมบูรณ์ของบทความตามรูปแบบของวารสาร

       ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป วารสารจะทำการเผยแพร่ คือ (1) ทำการเผยแพร่เป็นราย 6 เดือน ปีละ 2 ฉบับ ปีละ 2 ฉบับ (ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน, ฉบับที่ 2 กรกฎาคม – ธันวาคม) (2) เปิดรับบทความภาษาไทย (3) ทุกบทความที่ตีพิมพ์เผยแพร่ได้ผ่านการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 3 ท่าน โดยการปกปิดสองทาง (Double-blind) (4) และบทความทีได้รับการตอบรับต้องมีค่าความซ้ำของผลงาน ด้วยโปรแกรม CopyCat เว็บ Thaijo ในระดับไม่เกิน 20% และบทความที่ส่งมาขอรับการตีพิมพ์ในวารสาร มจร ทวารวดีปริทรรศน์ จะต้องไม่เคยตีพิมพ์ หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อตีพิมพ์ในวารสารอื่นใด

          กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธการตีพิมพ์ ในกรณีดังต่อไปนี้ (1) บทความมีความซ้ำซ้อนมากกว่า 20%  หรือ (2) ผู้นิพนธ์ไม่ปฏิบัติตามรูปแบบของผลงานตามที่วารสารกำหนด หรือ (3) ผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาแล้วเห็นไม่ควรตีพิมพ์ โดยถือมติผู้ทรงคุณวุฒิถือเป็นที่สิ้นสุด หรือ (4) ไม่แก้ไขบทความตามข้อเสนอแนะตามระยะเวลาที่กำหนด (ไม่เกิน 1 เดือน หลังจากกองบรรณาธิการได้แจ้งให้ปรับปรุงตามข้อเสนอแนะของผู้ทรงคุณวุฒิ) หรือ (5) เจ้าของผลงานขอยกเลิกการตีพิมพ์หลังจากกองบรรณาธิการได้กดรับในระบบแล้ว

 

การส่งบทความเข้าระบบ Thaijo เพื่อส่งบทความเข้าระบบ

         การส่งในระบบ (Online Submission) สามารถส่งเข้าระบบออนไลน์ได้เว็บไซต์ของวารสาร นวพุทธศาสตร์ ได้ที่ https://so10.tci-thaijo.org/index.php/jmdr/index โดยปฏิบัติดังนี้ 1. ลงทะเบียน  2. เข้าสู่ระบบ  3. ส่งผลงานที่เมนู บทความ/บทความเรื่องใหม่ (หากไม่ปรากฎเมนูนี้ ให้ท่านไปปรับแก้ข้อมูลส่วนตัว/เปลี่ยนสถานะเป็น ผู้แต่ง/Author)

 

การจัดเตรียมต้นฉบับ

          1) ต้นฉบับบทความต้อง เป็นไฟล Word มีความยาว ระหว่าง 12 - 15 หน้ากระดาษ ขนาด  A4  (รวมเอกสารอ้างอิง) พิมพ์บนกระดาษหน้าเดียว ภาษาไทยใช้ตัวอักษรแบบ THSarabunPSK ตั้งค่าหน้ากระดาษโดยเว้นระยะขอบทุกด้าน  2.5 เซ็นติเมตร ระยะห่างระหว่างบรรทัดเท่ากับ 1 เซ็นติเมตร และเว้นบรรทัดระหว่างแต่ละย่อหน้า การนำเสนอรูปภาพและตาราง ต้องนำเสนอรูปภาพและตารางที่มีความคมชัดพร้อมระบุหมายเลขกำกับรูปภาพไว้ด้านล่าง พิมพ์เป็นตัวหนาเช่นตาราง 1 หรือ Table 1 และ รูป 1 หรือ Figure 1 รูปภาพที่นำเสนอต้องมีรายละเอียดของข้อมูลครบถ้วนและเข้าใจได้โดยไม่จำเป็นต้องกลับไปอ่านที่เนื้อความอีก ระบุลำดับของรูปภาพทุกรูปให้สอดคล้องกับเนื้อหาที่อยู่ในต้นฉบับ โดยคำอธิบายต้องกระชับและสอดคล้องกับรูปภาพที่นำเสนอ

          2) ชื่อเรื่องต้องมีภาษาไทยและภาษาอังกฤษ พิมพ์ไว้หน้าแรกตรงกลาง

          3) ชื่อผู้เขียน ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ระบุวุฒิการศึกษาสูงสุด พร้อมระบุ ตำแหน่งทางวิชาการพิมพ์ด้วยตัวอักษรปกติอยู่ใต้ชื่อเรื่องโดยเยื้องมาทางด้านขวา และให้ตัวเลขเป็นตัวยกท้ายชื่อผู้เขียนเพื่อแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับตำแหน่งทางวิชาการและชื่อหน่วยงาน

          4) มีบทคัดย่อภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ไม่เกิน 320 คำต่อบทคัดย่อ

          5) กำหนดคำสำคัญ (Keywords) ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (3 - 5 คำ)

          6) การเรียงหัวข้อ หัวข้อใหญ่สุด ให้พิมพ์ชิดขอบด้านซ้าย หัวข้อย่อยเว้นห่างจากหัวข้อใหญ่ 3-5 ตัวอักษร เมื่อขึ้นหัวข้อใหญ่ควรเว้นระยะพิมพ์เพิ่มอีก 0.5 ช่วงบรรทัด ก่อนขึ้นหัวข้อย่อย

          7) การใช้ตัวเลขคำย่อ และวงเล็บ ควรใช้ตัวเลขอารบิกทั้งหมดและใช้คำย่อที่เป็นสากลเท่านั้น 

          8) การอ้างอิง ใช้การอ้างอิงระบบ APA6 โดยในเนื้อหามีรูปแบบเป็นทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ส่วนเอกสารอ้างอิงท้ายเรื่อง (References) จัดรูปแบบเป็น APA (โปรดดูรายละเอียดจากระบบการอ้างอิง)

 

บทความวิจัย ให้เรียงลำดับ ดังนี้  (แบบฟอร์มบทความวิจัย)           

          1) บทคัดย่อ (Abstract)

          2) บทนำ (Introduction)

          3) วัตถุประสงค์การวิจัย (Research Methodology)

          4) การทบทวนวรรณกรรม (Review Literature)

          5) วิธีดำเนินการวิจัย (Research Methodology)

          6) ผลการวิจัย/ผลการทดลอง (Results)

          7) อภิปรายผล/วิจารณ์ (Discussion)

          8) สรุปองค์ความรู้ (Conclusion)

          9) ข้อเสนอแนะ (Suggestion)

         10) เอกสารอ้างอิง (References)

 

บทความวิชาการ บทความพิเศษ บทความปริทรรศน์  ให้เรียงลำดับ ดังนี้ (แบบฟอร์มบทความวิชาการ)      

          1) บทคัดย่อ (Abstract)

          2) บทนำ (Introduction)

          3) เนื้อเรื่อง (Content)

          4) สรุป (Conclusion)

          5) ข้อเสนอแนะ (Suggestion)

          6) เอกสารอ้างอิง (Reference)

 

กระบวนการของวารสาร

          ต้นฉบับบทความที่เสนอเพื่อพิจารณาตีพิมพ์ในวารสารให้อยู่ในรูปแบบของไฟล์เอกสาร *.docx ของ Microsoft Word Version 2010 หรือมากกว่า ต้นฉบบขนาด A4 ความยาวของต้นฉบับต้องไม่เกิน 14 หน้า (รวมบทคัดย่อ ภาพ ตารางและเอกสารอ้างอิง) โดยกองบรรณาธิการจะพิจารณาเบื้องต้นเกี่ยวกับความถูกต้องของรูปแบบผลงาน หากไม่ถูกต้องสมบูรณ์จะส่งกลับไปแก้ไข เมื่อรูปแบบผลงานถูกต้องสมบูรณ์จึงนำเข้าสู่กระบวนการส่งให้ผู้ทรงคุณวุฒิประเมิน เมื่อผู้ทรงคุณวุฒิได้แจงผลการประเมิน ผ่าน/ไม่ผ่านหรือให้ปรับปรุงแก้ไข กองบรรณาธิการจะแจ้งให้ผู้เขียนได้ทราบและปรับปรุงแก้ไขให้สมบูรณ์ แล้วส่งกลับในระบบภายในระยะเวลา 1 เดือน เมื่อกองบรรณาธิการได้ตรวจสอบความสมบูรณ์ของผลงานแล้วจึงดำเนินการออกหนังสือตอบรับต่อไป โดยลำดับการตีพิมพ์เผยแพร่จะพิจารณาจากความสมบูรณ์ของผลงานและลำดับการส่งผลงานเป็นเบื้องต้น ทั้งนี้ การพิจารณาของกองบรรณาธิการถือเป็นที่สิ้นสุด

 

สิทธิของบรรณาธิการ

          เมื่อกองบรรณาธิการและผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งทำหน้าที่ประเมินบทความมีความเห็นว่าควรปรับปรุงแก้ไขและกองบรรณาธิการได้ส่งคืนในระบบเพื่อให้ผู้นิพนธ์ได้ปรับปรุงแก้ไขตามข้อเสนอแนะของผู้ทรงคุณวุฒิ โดยมีกำหนดปรับแก้และส่งฉบับสมบูรณ์กลับในระบบภายใน 1 เดือน เพื่อดำเนินการจัดรอบตีพิมพ์ต่อไป หากปรากฎว่าผู้นิพนธ์ไม่ได้ปรับปรุงแก้ไขให้สมบูรณ์ตามข้อเสนอ กองบรรณาธิการจะทำการเลื่อนรอบตีพิมพ์ออกไปจนกว่าผู้นิพนธ์จะปรับปรุงให้เรียนร้อยและส่งกลับภายในระบบเรียบร้อยแล้ว

          ทั้งนี้ กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่ตีพิมพ์บทความนั้น ๆ ในกรณีที่ไม่สอดคล้องกับแนวทางของวารสาร หรือไม่ผ่านการพิจารณาจากกองบรรณาธิการและผู้ทรงคุณวุฒิ หรือไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของวารสาร เมื่อบทความที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่แล้ว ผู้นิพนธ์จะได้รับลิงค์เผยแพร่ผลงานฉบับที่ลงตีพิมพ์ในวารสาร นวพุทธศาสตร์

Articles

Section default policy

นโยบายความเป็นส่วนตัว

ชื่อและที่อยู่อีเมล หรือข้อมูลส่วนบุคคล ที่กรอกในเว็บไซต์วารสารนี้จะใช้สำหรับวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในงานวารสารเท่านั้นและจะไม่เปิดเผยเพื่อวัตถุประสงค์ในกิจกรรมอื่น ๆ หรือให้กับบุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดทราบ