การวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียน เพื่อพัฒนาความสามารถในการปฏิบัติงานการทำกาแฟด้วย โมก้าพอท โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสาธิตร่วมกับทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การจำลองอาชีพ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ผู้แต่ง

  • พีรเดช บุญรอด ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน

คำสำคัญ:

วิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียน, การสอนแบบสาธิต, การสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง, ความสามารถในการทำกาแฟ, โมก้าพอท

บทคัดย่อ

        บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์  เพื่อพัฒนาความสามารถในการปฏิบัติการทำกาแฟด้วยโมก้าพอท    โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสาธิตร่วมกับทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียน (Action Research) จำนวน 3 วงจร ทุกวงจรได้ดำเนินงานตามขั้นตอน PAOR ซึ่งคือ Plan, Action, Observe และ Reflect กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวังน้ำคู้ศึกษา จำนวน 9 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 2 ชนิด คือ 1. แผนการจัดการเรียนรู้ 2. แบบประเมินความสามารถในการปฏิบัติงาน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ การวิเคราะเนื้อหา ค่าเฉลี่ยและค่าร้อยละ

         ผลการวิจัยพบว่า ในวงจรที่ 1 มีนักเรียนผ่านเกณฑ์จำนวน 3 คน และไม่ผ่านเกณฑ์ 6 คน โดยมีผลคะแนนการประเมินในภาพรวมคิดเป็นร้อยละ 61.37 ซึ่งยังไม่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70  โดยผู้วิจัยได้นำสภาพปัญหามาหาแนวทางแก้ไข และปรับปรุงการสอนในวงจรที่ 2 ซึ่งผลการวิจัยพบว่า มีนักเรียนผ่านเกณฑ์จำนวน 6 คน และที่ไม่ผ่านเกณฑ์ 3 คน โดยมีผลคะแนนการประเมินในภาพรวมคิดเป็นร้อยละ 68.28 ซึ่งยังไม่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ในวงจรที่ 3 ซึ่งผลการวิจัยพบว่า นักเรียนทั้ง 9 คน ผ่านเกณฑ์ทั้งหมด โดยมีคะแนนเฉลี่ยในภาพรวมคิดเป็นร้อยละ 77.81 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด

References

Hoffmann, J. (2016). The World Atlas of Coffee From Beans To Brewing Coffees. London: Mitchell Beazley.

Khaemmanee, T. (2017). 14 How To Teach (13th ed.). Bangkok: Chulalongkorn University Publishing House.

Khaemmanee, T. (2020). The science of teaching knowledge for effective learning process management (14th ed.). Bangkok: Chulalongkorn University Publishing House.

Kingston, L. (2017). How To Make Coffee. New York City: Abrams Imprint.Ministry of Education. (2010). Guidelines for organizing learning according to the basic education core curriculum B.E. 2008. Bankok: The Agricultural Cooperative Federation of Thailand Publisher.

Papert, S. (1993). Mindstorms: Children, Computers, and Powerful Ideas, Basic Books. Harper Collins Publishers, Inc., New York.

Ritcharoon, P. (2018). Research techniques for learning development (2rd ed.). Bangkok: Chulalongkorn University Publishing House.

Siriwong, W. (2019). Classroom Action Research. The journal of Sirindhornparithat, 20(2), 199-213.

Wongwanich, S. (2010). Classroom Action Research (14th ed.). Bangkok: Chulalongkorn University Publishing House.

Wongyai, W. & Patphol, M. (n.d.) Classroom action research Driving towards sufficient and sustainable regular work. Graduate School Srinakharinwirot University.

Yourung, L. & Areerungruang, S. (2018). Activity Learning by Constructionism withCeramics Formation for High School Students. Fine Arts Journal Srinakharinwirot University, 22(1). 45-60.

Yousafzai, A. (2023). The Demonstration Method of Teaching. https://zonofeducation.com/the-demonstration-method-of-teaching/

https://zonofeducation.com/the-demonstration-method-of-teaching/

Downloads

เผยแพร่แล้ว

16-12-2024

How to Cite

บุญรอด พ. . (2024). การวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียน เพื่อพัฒนาความสามารถในการปฏิบัติงานการทำกาแฟด้วย โมก้าพอท โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสาธิตร่วมกับทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การจำลองอาชีพ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. วารสารสังคมศึกษาปริทรรศน์, 1(1), 27–39. สืบค้น จาก https://so11.tci-thaijo.org/index.php/J_SSR/article/view/1176