การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 4

ผู้แต่ง

  • สัมพันธ์ ถนิมกาญจน์ หลักสูตรครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชานวัตกรรมหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
  • ณัฐธร ขุนทอง หลักสูตรครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชานวัตกรรมหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
  • กตัญญุตา บางโท คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
  • จงกล บัวแก้ว คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา

คำสำคัญ:

ครู, สมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้เชิง, การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) วิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน และ 2) ศึกษาระดับสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 4 การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างคือ ครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 4 จำนวน 300 คน ได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถาม มีค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาครอนบาค (Cronbach's Alpha) เท่ากับ 0.946 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน (CFA) ด้วยโปรแกรม LISREL และสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า 1) โมเดลสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูได้แก่ (1) การวางแผนการจัดการเรียนรู้ (2) การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (3) การใช้สื่อหรือเทคโนโลยี และ (4) การประเมินผลการเรียนรู้ มีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ องค์ประกอบทั้ง 4 ด้าน มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) สมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายด้านพบว่าด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกมีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด และด้านการวางแผนการจัดการเรียนรู้และด้านการใช้สื่อหรือเทคโนโลยีมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2563). แนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) สำหรับครูในศตวรรษที่ 21. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.

ภาสุดา ภาคาผล. (2566). การประเมินความต้องการจำเป็นในการส่งเสริมสมรรถนะการ จัดการเรียนรู้เชิงรุกของนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง. (วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

ยุภาลัย มะลิซ้อน. (2563). การพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562. (2562, 26 เมษายน 2562) ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 136 ตอนที่ 57 ก หน้า 49–50.

ศักดิ์นรินทร์ นิลรัตน์ศิริกุล. (2563). การพัฒนาสมรรถนะครู ด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก : กรณีศึกษาสหวิทยาเขตสตึก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 32. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 4. (2565). รายงานผลการนิเทศการศึกษา ประจำปี 2565. นครศรีธรรมราช: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 4.

สุวิมล ติรกานันท์. (2555). การวิเคราะห์ตัวแปรพหุในงานวิจัยทางสังคมศาสตร์. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

องค์การสหประชาชาติ. (2560). เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs). แปลและเรียบเรียงโดย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. กรุงเทพฯ: สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.

Byrne, B. M. (2016). Structural equation modeling with AMOS: Basic concepts, applications, and programming (3rd ed.). New York, NY: Routledge.

Comrey, A. L., & Lee, H. B. (1992). A first course in factor analysis (2nd ed.). Hillsdale, NJ: Lawrence Erlbaum Associates.

Cronbach, L. J. (1970). Essentials of psychological testing (3rd ed.). New York, NY: Harper & Row.

Hair, et al. (2006). Multivariate Data Analysis. 6th. New Jersey: Prentice-Hall.

Hair, J. F., Black, W. C., Babin, B. J., & Anderson, R. E. (2010). Multivariate data analysis (7th ed.). Upper Saddle River, NJ: Pearson.

Likert, R. (1967). The method of constructing an attitude scale. In M. Fishbein (Ed.), Readings in attitude theory and measurement (pp. 90–95). New York, NY: Wiley.

Lynn, M. R. (1986). Determination and quantification of content validity. Nursing Research, 35(6), 382-385.

Organisation for Economic Co-operation and Development. (2018). The Future of Education and Skills: Education 2030. Paris, France: OECD Publishing.

Partnership for 21st Century Skills. (2019). Framework for 21st Century Learning. Retrieved August 18, 2025, from http://www.battelleforkids.org/networks/p21.

Trilling, B., & Fadel, C. (2009). 21st Century Skills: Learning for Life in Our Times. San Francisco: Jossey-Bass.

Zeiger, S. (2015). English Education. Miami State: Miami University.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

12/16/2025

รูปแบบการอ้างอิง

ถนิมกาญจน์ ส., ขุนทอง ณ., บางโท ก., & บัวแก้ว จ. (2025). การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 4. วารสารนวัตกรรมการบริหารและการจัดการศึกษา, 3(3), 121–134. สืบค้น จาก https://so11.tci-thaijo.org/index.php/IAEM/article/view/2510

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย (Research article)