การพัฒนาและทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ HAPPY Model เพื่อยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ในรายวิชาคณิตศาสตร์ธุรกิจและบริการ ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ วิทยาลัยเทคนิคลพบุรี

Main Article Content

เมณิษา สายสุวรรณ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ HAPPY Model ในรายวิชาคณิตศาสตร์ธุรกิจและบริการ สำหรับนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อ (1) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ HAPPY Model (2) ศึกษาคุณภาพของรูปแบบ (3) ศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบตามเกณฑ์ 80/80 (4) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการใช้รูปแบบ (5) ศึกษาดัชนีประสิทธิผล (Effectiveness Index: EI) (6) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน และ (7) ศึกษาเจตคติของนักเรียนหลังการเรียนด้วยรูปแบบ HAPPY Model พัฒนาบนฐานแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) และแนวคิดสร้างความรู้ทางสังคม (Social Constructivism) โดยบูรณาการทฤษฎีของ Maslow, Vygotsky, Thorndike, Dewey และ Zimmerman เพื่อเสริมสร้างทั้งมิติด้านจิตพิสัยและพุทธิพิสัยของผู้เรียน การวิจัยใช้แบบแผน One-Group Pretest–Posttest Design กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 2 จำนวน 26 คน ได้จากการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือประกอบด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ HAPPY Model แผนการจัดการเรียนรู้ 18 แผน ชุดแบบฝึกทักษะ 17 เล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ แบบสอบถามความพึงพอใจ และแบบวัดเจตคติ โดยใช้สถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ประสิทธิภาพ และดัชนีประสิทธิผล


     ผลการวิจัยพบว่ารูปแบบการจัดการเรียนรู้ HAPPY Model มีความเหมาะสมและความสอดคล้อง อยู่ในระดับมากที่สุด (equation = 4.72, S.D = 0.30 ) ประสิทธิภาพของรูปแบบเท่ากับ  = 89.30/84.62 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้  = 80/80 อย่างมีนัยสำคัญ ค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I.) เท่ากับ 0.75 จัดอยู่ในระดับความก้าวหน้าสูง (High Gain) โดยมีความก้าวหน้าทางการเรียนรู้เฉลี่ยร้อยละ 74.50 นักเรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบโดยรวม อยู่ในระดับมาก ( equation= 4.44, S.D. = 0.57 ) และมีเจตคติที่ดีต่อรายวิชาคณิตศาสตร์ธุรกิจและบริการในระดับมาก  ( equation=3.80, S.D. = 1.21) โดยเฉพาะด้านการเห็นคุณค่าความสำคัญต่ออาชีพ ( equation= 4.92 ) ผลการวิจัยยืนยันว่าการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการบูรณาการด้านจิตพิสัย (H-step) เข้ากับกระบวนการเรียนรู้เชิงรุก (A, P, P steps) สามารถยกผลสัมฤทธิ์และทักษะการประยุกต์ใช้คณิตศาสตร์ในบริบทอาชีพได้อย่างมีประสิทธิผล ข้อเสนอแนะคือควรนำรูปแบบไปใช้ ในรายวิชาอื่นของสายอาชีพ และควรมีการวิจัยเชิงเปรียบเทียบเพิ่มเติมเพื่อศึกษาผลต่อทักษะการคิด  เชิงวิเคราะห์และความคงทนของการเรียนรู้ในระยะยาว

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
[1]
สายสุวรรณ เ., “การพัฒนาและทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ HAPPY Model เพื่อยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ในรายวิชาคณิตศาสตร์ธุรกิจและบริการ ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ วิทยาลัยเทคนิคลพบุรี”, Andj, ปี 5, ฉบับที่ 2, น. 125–135, ธ.ค. 2025.
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

UNESCO. (2015). Rethinking education: Towards a global common good?. UNESCO Publishing.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2565). สภาวะการศึกษาไทย ปี 2564 สภาวการณ์การจัดการศึกษา ตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา (สิ่งพิมพ์ สกศ. อันดับที่ 16/2565). กรุงเทพมหานคร.

วิทยาลัยเทคนิคลพบุรี.(2562-2564). ข้อมูลการประกันคุณภาพภายในงานวัดผลและประเมินผลปีการศึกษา 2562-2564.ลพบุรี: งานวัดผลและประเมิน วิทยาลัยเทคนิคลพบุรี.

Community Literacy of Ontario. (2013). Instructional strategies: Literacy basics. Literacy Basics.

Bonwell, C. C., & Eison, J. A. (1991). Active learning: Creating excitement in the classroom. ASHE-ERIC Higher Education Report No. 1. Washington, D.C.: The George Washington University, School of Education and Human Development.

Maslow, A. H. (1943). A theory of human motivation. Psychological Review, 50(4), 370–396.

Vygotsky, L. S. (1978). Mind in society: The development of higher psychological processes. Cambridge, MA: Harvard University Press.

Thorn dike, E.L.(1913).Educational psychology : The original nature of man (Vol. 1). Teachers College.

Dewey, J. (1933). How we think: A restatement of the relation of reflective thinking to the educative process. Boston: D.C. Heath and Company

Zimmerman, B. J. (1990). Self-regulated learning and academic achievement: An overview. Educational Psychologist, 25(1), 3-17.

Piaget, J. (1952). The origins of intelligence in children. International Universities Press.

สมจิต พงษ์มา. (2558). รูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถใน การคิดวิเคราะห์ และพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม

รุจิรา เศารยะสกุล, ฐาปนี สีเฉลียว, และ ศรีสุดา สิงห์ชุม. (2561). ผลการจัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือตามรูปแบบ แอล.ที. เพื่อพัฒนา ทักษะการทำงานเป็นทีมสำหรับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1. วารสารเทคโนโลยี และสื่อสารการศึกษา,1(2), 98-100.นิเทศการศึกษา, 7(1), 174–182