รูปแบบการจัดการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้านแบบผสมผสาน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนตามข้อตกลง การปฏิบัติงานที่กำหนด

Main Article Content

วารุณี เอี่ยมอารมณ์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาและประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้านแบบผสมผสานเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามข้อตกลงการปฏิบัติงานที่กำหนด
2) พัฒนาและประเมินคุณภาพของชุดการเรียนรู้ด้วยตนเองรายวิชาการบัญชีชั้นกลาง 1 3) ทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้านแบบผสมผสาน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามข้อตกลงการปฏิบัติงานที่กำหนด ที่พัฒนาขึ้น และ 4) ติดตามและประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้านแบบผสมผสาน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามข้อตกลงการปฏิบัติงานที่กำหนด ซึ่งเป็นการวิจัยและพัฒนา โดยเริ่มแรกเป็นการวิจัยเพื่อพัฒนาและประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้านฯ ที่ได้ข้อมูลจากการศึกษาเกี่ยวกับสภาพปัญหาและความต้องการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเอกสารตำรา บทความวิชาการ หลังจากนั้นพัฒนาชุดการเรียนรู้ด้วยตนเองรายวิชาการบัญชีชั้นกลาง 1 ซึ่งเป็นองค์ประกอบหนึ่งตามรูปแบบ เพื่อนำไปใช้จัดการเรียนรู้กับกลุ่มประชากรในการวิจัย ได้แก่ นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง 1 แผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยพณิชยการธนบุรี จำนวน 37 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่
1) แบบสอบถาม 2) แบบประเมินความเหมาะสม 3) แบบประเมินคุณภาพ 4) แบบทดสอบ และ 5) แบบประเมินความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความเชื่อมั่น และค่าดัชนีความสอดคล้อง


           ผลการวิจัยพบว่า


  1. ผลการพัฒนาและประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้านแบบผสมผสานเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามข้อตกลงการปฏิบัติงานที่กำหนด พบว่า ได้กระบวนการที่แสดงถึงความสัมพันธ์ของการออกแบบการจัดการเรียนรู้ 4 ขั้นตอน 9 องค์ประกอบ ดังนี้ 1) ขั้นเตรียมการสอน

 


(Input) องค์ประกอบที่ 1 วางแผน: จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ องค์ประกอบที่ 2 บันทึก: สร้างห้องเรียนออนไลน์ จัดทำชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง 2) ขั้นการจัดการเรียนการสอน (Process) องค์ประกอบที่ 1 แชร์: ผู้สอนส่งสื่อออนไลน์ผ่านห้องเรียนออนไลน์ ผู้เรียนเรียนรู้ภาคทฤษฎี ตามแบบการเรียนรู้ด้วยตนเอง 5 P องค์ประกอบที่ 2 แลกเปลี่ยนเรียนรู้: การเรียนภาคปฏิบัติในห้องเรียน 3) ขั้นประเมินผลการเรียนรู้ (Output) องค์ประกอบที่ 1 ทดสอบภาคทฤษฎี องค์ประกอบที่ 2 ทดสอบภาคปฏิบัติ และ 4) ขั้นประเมินผลลัพธ์การเรียนรู้ (Outcome) องค์ประกอบที่ 1 ทดสอบปลายภาค ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ องค์ประกอบที่ 2 ประเมินผล
การเรียน (Grade) องค์ประกอบที่ 3 เปรียบเทียบผลการเรียนกับเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในข้อตกลงการพัฒนางาน (PA) โดยมีผลการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบอยู่ในระดับมากที่สุดทุกรายการ


  1. ผลการพัฒนาและประเมินคุณภาพของชุดการเรียนรู้ด้วยตนเองรายวิชาการบัญชีชั้นกลาง 1 พบว่า ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง แบ่งเป็น 7 หน่วย มีความเหมาะสมในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุดทุกรายการ องค์ประกอบต่าง ๆ ของชุดการเรียนรู้มีความสอดคล้องกันทุกหัวข้อ

  2. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น พบว่า ดำเนินการครบถ้วนตามรูปแบบ ผู้เรียนจัดทำ mind mapping และส่งผลงานคิดเป็นร้อยละ 100

  3. ผลการติดตามและประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมีคะแนนเฉลี่ยภาคทฤษฎีร้อยละ 87.40/86.72 ภาคปฏิบัติ ร้อยละ 75.45 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ผลการเรียนอยู่ในระดับ 2 ขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 100 จัดการเรียนรู้ได้ครบถ้วนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติตามเวลาของหลักสูตร และผู้เรียนมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
[1]
เอี่ยมอารมณ์ ว., “รูปแบบการจัดการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้านแบบผสมผสาน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนตามข้อตกลง การปฏิบัติงานที่กำหนด”, Andj, ปี 5, ฉบับที่ 2, น. 022–045, ธ.ค. 2025.
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

สำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษาและวิชาชีพ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา. (2567). [ออนไลน์] หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พุทธศักราช 2567 ประเภทวิชาบริหารธุรกิจ กลุ่มอาชีพการเงินและการบัญชี สาขาวิชาการบัญชี. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ. [สืบค้นเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2568]. จากhttps://shorturl.asia/1PW0h

เบญจวรรณ ถนอมชยธวัช, ผ่องศรี วาณิชย์ศุภวงศ์, วุฒิชัย เนียมเทศ, และณัฐวิทย์ พจนตันติ. (2559). ทักษะ แห่งศตวรรษที่ 21: ความท้าทายในการพัฒนานักศึกษา 21st (Century Skills: A Challenge for Student Development). วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้ ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม-สิงหาคม 2559 หน้า 208-222

กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ. (2544). แนวทางการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา. กรุงเทพมหานคร : คุรุสภาลาดพร้าว.

เชรษฐรัฐ กองรัตน์. (2565). ห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom): การจัดการเรียนรู้ภาษาไทย เพื่อพัฒนาผู้เรียนในยุคความปกติถัดไป (Next Normal). วารสารราชพฤกษ์์ ปีที่ 20 ฉบัับที่่ 2 (พฤษภาคม – สิิงหาคม 2565) 1-15.

เทพยพงษ์ เศษคึมบง. (2565). การปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ในระดับอุดมศึกษา สู่ความปกติในสถานการณ์วิกฤติโควิด-19. วารสารรัชตภาคย์, 15(44), น. 1-13.

ฐานิตา ลิ่มวงศ์ และ ยุพาภรณ์ แสงฤทธิ์. (2562). ห้องเรียนกลับด้าน: การเรียนรู้แนวใหม่สำหรับศตวรรษที่ 21 (21st Century Skills). Mahidol R2R e-Journal, 6(2), 9-17.

กรวรรณ สืบสม และนพรัตน์ หมีพลัด. (2560). การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom) ด้วยการบูรณาการการเรียนการสอนรายวิชาเทคโนโลยีมัลติมีเดียผ่าน Google Classroom. วารสารสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์สมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ปีที่ 6 ฉบับที่ 2 เดือน กรกฎาคม-ธันวาคม 2560.

กนิษฐา บางภู่ภมร. (2559). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับการเรียนรู้แบบนำตนเองเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักศึกษาระดับปริญญาตรี. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์อุตสาหกรรมดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีเทคนิคศึกษา ภาควิชาครุศาสตร์เทคโนโลยี บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ.

บุญชม ศรีสะอาด. (2543). การวิจัยทางการวัดผลและประเมินผล. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาสาส์น.

อัจฉรา เชยเชิงวิทย์. (2559). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบห้องเรียนกลับด้านโดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือผ่านเครือขายสังคม. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์อุตสาหกรรมดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีเทคนิคศึกษา ภาควิชาครุศาสตร์เทคโนโลยี บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ.

ทิศนา แขมณี. (2553). ศาสตร์การสอน : องค์ความรู้เพื่อการจัดการกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ.พิมพ์ครั้งที่ 12. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ชนาธิป พรกุล. (2554). การสอนกระบวนการคิด ทฤษฎีและการนำไปใช้. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ :สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ชัยยงค์ พรหมวงศ์ (2556). การทดสอบประสิทธิภาพสื่อหรือชุดการสอน. วารสารศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย ปีที่ 5 ฉบัับที่่ 1 (มกราคม – มิถุนายน 2556) 7-20.

ศศิธร นาม่วงอ่อน ทิพรัตน์ สิทธิวงศ์ และประหยัด จิระวรพงศ์. (2559). การจัดการเรียนการสอนแบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับการเรียนรู้เป็นทีม หมวดวิชาศึกษาทั่วไป สำหรับนิสิตปริญญาตรี. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากรวิจัย ปีที่ 14 ฉบัับที่่ 1 (มิถุนายน-ตุลาคม 2559) 45-53.

ศรัญญา จุฬารี และพันทิพา อมรฤทธิ์. (2564). ผลของรูปแบบการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกต่อพฤติกรรมการเรียนรู้ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจของนักศึกษาพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี. วารสารเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา

สำนักเทคโนโลยีการศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ปีที่ 16 ฉบัับที่่ 21 (มิถุนายน-ตุลาคม 2559) 45-53.

Bishop & Verleger. (2013 อ้างถึง Wenxia Wu และคณะ, 2016) [online]. Available from: https://hanadaesa.blogspot.com/p/blog-page_4226.html

Bergman, J. and Sams. (2012). Flip your classroom. [online]. Available from: https://escolaecofeliz.files.wordpress.com/2015/12/flip-your-classroom.pdf

Antoine Marchalot, Bertrand Dureuil, Benoit Veber, Jean-Luc Fellahi, Jean-Luc Hanouzd, Herve´ Dupont, Emmanuel Lorne, Jean-Louis Gerard, and Vincent Compe`re. (2018). Effectiveness of a blended learning course and flipped classroom in first year anaesthesia training. Anaesth Critical Care & Pain Medecine. Volume 37, Issue 5, October 2018, Pages 411-415.

Mary Beth Gilboy, Scott Heinerichs, & Gina Pazzaglia. (2015). Enhancing Student Engagement Using the Flipped Classroom. Journal of Nutrition Education and Behavior Volume 47, Issue 1, January–February 2015, Pages 109-114.