ความสัมพันธ์ระหว่างความฉลาดทางอารมณ์กับการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของผู้บริหารสถานศึกษาในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระยอง เขต 1
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาความฉลาดทางอารมณ์ของผู้บริหารสถานศึกษาในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา, 2) เพื่อศึกษาการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของผู้บริหารสถานศึกษาในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา, 3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความฉลาดทางอารมณ์กับการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของผู้บริหารสถานศึกษาในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา, การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างคือ ครูผู้สอน กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนขยายโอกาส ปีการศึกษา 2562 จำนวน 277 คน โดยสุ่มหาจำนวนโรงเรียนแยกเป็นรายอำเภอ โดยทำการแบ่งแบบชั้นภูมิ (Stratified Random Sampling) จากนั้นดำเนินการสุ่มกลุ่มตัวอย่างตามสัดส่วนของประชากรแต่ละโรงเรียนใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเขาชะเมา อำเภอแกลง อำเภอวังจันทร์ แล้วจึงใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยการจับฉลาก เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ที่มีความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.98 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน
ผลการวิจัยพบว่า 1) ความฉลาดทางอารมณ์ของผู้บริหารสถานศึกษาในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา พบว่าโดยรวมความฉลาดทางอารมณ์ของผู้บริหารอยู่ในระดับมาก 2) ระดับปฏิบัติการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของผู้บริหารสถานศึกษาในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา พบว่าโดยรวมมีการปฏิบัติการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของผู้บริหารสถานศึกษา อยู่ในระดับมาก และ 3. ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างความฉลาดทางอารมณ์กับการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของผู้บริหารสถานศึกษาในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา โดยรวมอยู่ในระดับสูง มีความสัมพันธ์ทางบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อพิจารณาความสัมพันธ์แต่ละด้านพบว่า มีความสัมพันธ์อยู่ในช่วงระหว่าง 0.55 - 0.76 การสร้างแรงจูงใจให้กับตนเอง กับหลักการมีส่วนร่วม มีความสัมพันธ์กันอยู่ในระดับสูง การควบคุมอารมณ์ตนเอง กับหลักการมีส่วนร่วม มีความสัมพันธ์กันอยู่ในระดับสูงและการตระหนักรู้อารมณ์ของตน กับหลักการคืนอำนาจจัดการศึกษาให้ประชาชน มีความสัมพันธ์กันอยู่ในระดับปานกลาง มีความสัมพันธ์ทางบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
References
สุเทพ พงศ์ศรีวัฒน์. (25548. ภาวะความเป็นผู้นำ. กรุงเทพฯ: ส.เอเชียเพรส (1989).
สุเทพ พงศ์ศรีวัฒน์. (2550). ภาวะผู้นำ ทฤษฎีและปฏิบัติ: ศาสตร์และศิลป์สู่ความเป็นผู้นำที่สมบูรณ์. ม.ป.ท.
Cheng, Yin Cheong. (1996).School Effectiveness and School-based Management : A Mechanism for Development. London : The Falmer.
David, Jane L. (1996). The Who, What, and Why of Site-Based Management. Educational
Leadership.Florida Department of Education. Strategies for School-Based Management. December 1995/January
Farahbakhsh, S. (2012). The Role of Emotional Intelligence in Increasing Quality of Work Life
in School Principals. Iran : Master Thesis Department of Education, Lorestan University.
Krejcie, RV, & Morgan, DW (1970) Specifying sample sizes for research activities Educational and psychological measurements, 30, 607-610
Mohamad, Mafuzah & Jais, Juraifa (2016) Emotional intelligence and operations: Education among Malaysian teachers The 7th International Economics and Business Conference, 5 and 6 October 2015 Economics and Finance Procedia, 35, 674 - 682
Sivertson. S. (2018). A system dynamics model of fish populations in Western Lake Superior. Semantics Scholar.
Farahbakhsh, S. (2012). The Role of Emotional Intelligence in Increasing Quality
of Work Life in School Principals. Iran : Master Thesis Department of Education,
Lorestan University.
Wayne K. Hoy and Miskel G. Cencil. (2005). Education Administration : Theory, Research, and
Practice. New York : McGraw –Hill.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความนี้ได้รับการเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) ซึ่งอนุญาตให้ผู้อื่นสามารถแชร์บทความได้โดยให้เครดิตผู้เขียนและห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าหรือดัดแปลง หากต้องการใช้งานซ้ำในลักษณะอื่น ๆ หรือการเผยแพร่ซ้ำ จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากวารสาร