ทัศนะของประชาชนในการนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในการบริหารจัดการ ของเทศบาลตำบลรังกาใหญ่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา
คำสำคัญ:
ทัศนะ, ธรรมาภิบาลบทคัดย่อ
การศึกษาทัศนะของประชาชนในการนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในการบริหารจัดการของเทศบาลตำบลรังกาใหญ่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงทัศนะและเปรียบเทียบความแตกต่างในทัศนะของประชาชนที่มีต่อการนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในการบริหารจัดการ ตลอดจนเพื่อหาข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการนำหลักธรรมาภิบาลมาปรับใช้ในการวางแผน และการปรับกลยุทธ์ในการดำเนินงาน รวมทั้งพัฒนากระบวนการการบริหารเพื่อพัฒนาเทศบาลตำบลรังกาใหญ่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตการปกครองของเทศบาลตำบลรังกาใหญ่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมาที่มีสิทธิในการเลือกตั้งจำนวน 351 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา เป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าอัตราร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าที และค่าความแปรปรวนทางเดียว ผลการศึกษาพบว่า 1. ทัศนะของประชาชนในการนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในการบริหารจัดการของเทศบาลตำบลรังกาใหญ่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา โดยภาพรวมพบว่าอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าทุกด้านอยู่ในระดับมาก 2. เปรียบเทียบความแตกต่างในทัศนะของประชาชนในการนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในการบริหารจัดการของเทศบาลตำบลรังกาใหญ่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมาจำแนกตามปัจจัยด้านเพศ พบว่า ประชาชนที่มีเพศต่างกันมีทัศนะไม่แตกต่างกัน จำแนกตามปัจจัยด้านอายุ พบว่า ประชาชนที่มีอายุต่างกันมีทัศนะต่อการนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในการบริหารจัดการของเทศบาลตำบลรังกาใหญ่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา จำแนกตามปัจจัยด้านระดับการศึกษา พบว่า ประชาชนมีทัศนะการนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในการบริหารจัดการของเทศบาลตำบลรังกาใหญ่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา แตกต่างกัน เฉพาะในหลักนิติธรรม หลักความรับผิดชอบและหลักความคุ้มค่า ส่วนในด้านอื่นๆ ประชาชนมีทัศนะไม่แตกต่างกัน จำแนกตามปัจจัยรายได้ต่อเดือน พบว่า ทั้งโดยรวมและรายด้านโดยเฉลี่ยมีทัศนะไม่แตกต่างกัน 3.ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการนำทัศนะหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในการบริหารจัดการของเทศบาลตำบลรังกาใหญ่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมาคือ เทศบาลตำบลรังกาใหญ่ ควรให้การช่วยเหลือแก้ไขปัญหาอาชีพในชุมชนให้มากกว่านี้ ควรปรับการทำงานให้มีประสิทธิภาพแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างรวดเร็ว ทันที ควรประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ควรจัดสรรงบประมาณให้ทั่วถึงทุกหมู่บ้านอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ผู้บริหารควรเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว จริงใจในการทำหน้าที่ สละเวลาให้มากกว่านี้และควรให้การช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในชุมชนให้มากกว่านี้