https://so11.tci-thaijo.org/index.php/RMUTPR2R/issue/feed
วารสารวิจัยสายสนับสนุน ราชมงคลพระนคร
2025-04-02T14:42:02+07:00
Asst. Prof. Dr. Chantana Papattha
chantana.p@rmutp.ac.th
Open Journal Systems
<p><strong>วารสารวิจัยสายสนับสนุน ราชมงคลพระนคร</strong></p> <p>กำหนดออก 2 ฉบับต่อปี ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน และฉบับที่ 2 กรกฎาคม – ธันวาคม</p> <p>นโยบายและขอบเขตการตีพิมพ์ : วารสารวิจัยสายสนับสนุน ราชมงคลพระนคร เป็นวารสารเชิงวิชาการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ผลงานงานประจำสู่งานวิจัย (Routine to Research :R2R) ที่มีเนื้อหาวิชาการที่เป็นประโยชน์ในวงวิชาชีพ หรือเป็นผลงานที่แก้ไข ปรับปรุง หรือพัฒนางานประจำให้ดีขึ้น</p>
https://so11.tci-thaijo.org/index.php/RMUTPR2R/article/view/1899
สภาพปัญหา และแนวทางการปฏิบัติสำหรับสหกิจศึกษายุคฐานวิถีชีวิตใหม่
2025-04-02T11:28:51+07:00
นภาพร ภู่เพ็ชร์, กชพรรณ กระตุฤกษ์, สุรีย์ เนียมสกุล
napaporn.p@rmutp.ac.th
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัญหาของสหกิจศึกษาในยุคฐานวิถีชีวิตใหม่ และหาแนวทางการปฏิบัติสหกิจศึกษาในยุคฐานชีวิตวิถีใหม่ โดยการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยเชิงคุณภาพ ได้แก่ ผู้บริหาร พี่เลี้ยง หรือตัวแทนจากสถานประกอบการ และอาจารย์นิเทศของคณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพปัญหาที่พบ ได้แก่ (1) ความพร้อมของสถานประกอบการ (2) ความพร้อมของนักศึกษา (3) ความพร้อมของอุปกรณ์ (4) ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น (5) ลักษณะงานไม่สามารถปฏิบัติแบบ Work from Home ได้ (6) การติดต่อสื่อสารการอธิบายงานยากกว่าปกติ (7) การส่งงานล่าช้ากว่ากำหนด และ (8) การติดตามงานทำได้ยาก จากสภาพปัญหาสามารถกำหนด<br>2) แนวทางการปฏิบัติสำหรับสหกิจศึกษายุคฐานวิถีชีวิตใหม่ได้ คือ (1) ก่อนการปฏิบัติสหกิจศึกษาต้องสำรวจความพร้อมของนักศึกษาในเรื่องอุปกรณ์ที่จำเป็น สำรวจความพร้อมของสถานประกอบการ และคณะออกแนวทางการปฏิบัติสหกิจศึกษาอย่างชัดเจนแจ้งแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง และแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน หรือผลการตรวจ ATK ก่อนเริ่มปฏิบัติสหกิจศึกษา (2) ระหว่างปฏิบัติสหกิจศึกษาต้องรายงานการเข้าปฏิบัติงานในสถานประกอบการสัปดาห์ละ 1 ครั้ง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ใช้โปรแกรมหมอชนะ ไทยชนะ และหมอพร้อม พกเจลแอลกฮอล์ไว้ล้างมือระหว่างวัน จัดเวลาทำงาน เวลาพัก และรับประทานอาหารของนักศึกษาให้เหลื่อมกัน และ (3) หลังปฏิบัติสหกิจศึกษาต้องประเมินการทำงานของนักศึกษา และความพร้อมของสถานประกอบการ เพื่อเป็นข้อมูลในการพัฒนา และปรับปรุงกระบวนการสำหรับปีการศึกษาถัดไปได้อย่างเหมาะสม กำหนดให้นักศึกษาส่งแจ้งผลการตรวจ ATK จำนวน 1 ครั้งหลังจากเสร็จสิ้นการปฏิบัติสหกิจศึกษาแก่คณะ และสถานประกอบการ</p>
2023-12-25T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025
https://so11.tci-thaijo.org/index.php/RMUTPR2R/article/view/1897
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมของบุคลากรในการพัฒนาสู่เกณฑ์คุณภาพการศึกษา เพื่อการดำเนินการที่เป็นเลิศ (EdPEx) ระดับคณะ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
2025-04-02T10:58:20+07:00
สันติ เกษมวัฒนปัญญา, วีรนุช พานทอง
weeranuch_p@rmutt.ac.th
<p class="Default" style="text-align: justify; text-justify: inter-cluster;">การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยการพัฒนาการปฏิบัติการขององค์กรเพื่อการดำเนินการที่เป็นเลิศ (EdPEx) ระดับคณะ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี 2) ศึกษาการมีส่วนร่วมของบุคลากรในการพัฒนาสู่เกณฑ์คุณภาพการศึกษา เพื่อการดำเนินการที่เป็นเลิศ (EdPEx) ระดับคณะ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และ 3) ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมของบุคลากรในการพัฒนาสู่เกณฑ์คุณภาพการศึกษา เพื่อการดำเนินการที่เป็นเลิศ (EdPEx) ระดับคณะ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยคือ บุคลากรที่ดำเนินการประกันคุณภาพของคณะ จำนวนทั้งสิ้น 80 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย และสถิติที่ใช้การวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ความถดถอยแบบเชิงพหุ ด้วยโปรแกรมทางสถิติ ผลการวิจัยพบว่า 1) ปัจจัยการพัฒนาการปฏิบัติการขององค์กรในการพัฒนาสู่เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพื่อการดำเนินการที่เป็นเลิศ (EdPEx) ระดับคณะ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี อยู่ในระดับมาก 2) ระดับการมีส่วนร่วมของบุคลากรในการพัฒนาสู่เกณฑ์คุณภาพการศึกษา เพื่อการดำเนินการที่เป็นเลิศ (EdPEx) ระดับคณะ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี อยู่ในระดับมาก และ 3) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมของบุคลากรในการพัฒนาสู่เกณฑ์คุณภาพเพื่อการดำเนินการที่เป็นเลิศ (EdPEx) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ได้แก่ การร่วมมือกันปฏิบัติงานทุกหน่วยงานและเจตคติ ได้ร้อยละ 78.30</p>
2023-12-25T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025
https://so11.tci-thaijo.org/index.php/RMUTPR2R/article/view/1900
การวิเคราะห์งบประมาณกองทุนเพื่อการวิจัยของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร
2025-04-02T13:19:05+07:00
เจนจิรา บ.ป.สูงเนิน, ชุติมา ชาตะรัตน์
jenjila.b@rmutp.ac.th
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์งบประมาณตามแผนและการใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อการวิจัย ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร โดยเป็นการวิจัยเอกสารทำการรวบรวมข้อมูลจากเอกสารของแผน และการใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อการวิจัย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562-2566 และเอกสารที่เกี่ยวข้อง โดยทำการเปรียบเทียบสัดส่วนและวิเคราะห์แนวโน้มงบประมาณจากกองทุนเพื่อการวิจัย เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายตามแผน และการใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อการวิจัย แบ่งเป็น 6 กิจกรรม ได้แก่ 1) กิจกรรมส่งเสริมการตีพิมพ์เผยแพร่ 2) กิจกรรมส่งเสริมการขอรับความคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา 3) กิจกรรมสนับสนุนการดำเนินโครงการวิจัย 4) กิจกรรมส่งเสริมนักวิจัย 5) ค่าธรรมเนียมฐานข้อมูลงานวิจัยระดับชาติและระดับนานาชาติ 6) ค่าใช้จ่ายสนับสนุน อื่น ๆ ในการเผยแพร่งานวิจัย ผลการวิจัย ภาพรวมการใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อการวิจัย พบว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 มีสัดส่วนการใช้จ่ายงบประมาณ มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 34.72 รองลงมาคือ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 คิดเป็นร้อยละ 21.95 และน้อยที่สุด คือ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 คิดเป็นร้อยละ 19.16 และเมื่อพิจารณาค่าใช้จ่ายตามแผนและการใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อวิจัย เมื่อเปรียบเทียบสัดส่วนรายการค่าใช้จ่าย พบว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 กิจกรรมส่งเสริมการตีพิมพ์เผยแพร่ มีการใช้จ่ายเงินสูงสุด สัดส่วนเท่ากับ 62.12 รองลงมา คือ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 กิจกรรมสนับสนุนการดำเนินโครงการวิจัย มีสัดส่วนเท่ากับ 48.87 และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ค่าธรรมเนียมฐานข้อมูลงานวิจัยระดับชาติ และระดับนานาชาติ มีสัดส่วนเท่ากับ 43.72 จะเห็นได้ว่า มีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควรพิจารณาแนวทางหรือกำหนดกรอบวงเงินให้พอเหมาะกับงบประมาณที่ได้รับจัดสรร รวมถึงมีแผนรองรับการบริหารจัดการของกองทุน เพื่อการวิจัย เพื่อสนับสนุนภารกิจที่เกี่ยวข้องให้เกิดประสิทธิภาพต่อไป</p>
2023-12-25T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025
https://so11.tci-thaijo.org/index.php/RMUTPR2R/article/view/1903
การพัฒนาเว็บไซต์สำนักมาตรฐานและประกันคุณภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
2025-04-02T14:25:17+07:00
นาถยา แฝงเดโช
natthaya.fa@rmu.ac.th
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์สำนักมาตรฐานและประกันคุณภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม 2) ประเมินคุณภาพเว็บไซต์สำนักมาตรฐานและประกันคุณภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามตามมาตรฐานเว็บไซต์ภาครัฐ 2.0 และ 3) ประเมินความพึงพอใจต่อการใช้งานเว็บไซต์สำนักมาตรฐานและประกันคุณภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1) ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ จำนวน 3 คน เพื่อตรวจสอบคุณภาพเว็บไซต์ และ 2) ผู้ทดสอบการใช้งาน ได้แก่ บุคลากรในสำนักมาตรฐานและประกันคุณภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม จำนวน 10 คน และบุคลากรอื่นในมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม จำนวน 100 คน เพื่อประเมินความพึงพอใจต่อเว็บไซต์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบตรวจสอบประเด็นการพัฒนาเว็บไซต์ภาครัฐ จำนวน 28 ประเด็น และ 2) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการใช้งานเว็บไซต์ และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) เว็บไซต์สำนักมาตรฐานและประกันคุณภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ได้วิเคราะห์ และออกแบบระบบตามวงจรพัฒนาระบบ (System Development Life Cycle: SDLC ) โดยนำเอาระบบการจัดการเนื้อหาของเว็บไซต์ (Content Management System: CMS) ด้วยเครื่องมือพัฒนาสำเร็จรูป WordPress มาพัฒนาเว็บไซต์ ซึ่งเขียนด้วยภาษา PHP และใช้ระบบการจัดการฐานข้อมูล MySQL มีส่วนของเมนูผู้ควบคุมระบบที่ใช้ในการบริหารจัดการส่วนการทำงานต่าง ๆ ในเว็บไซต์ อีกทั้งยังรองรับการแสดงผลในรูปแบบ Responsive Design ซึ่งสามารถรองรับการแสดงผลได้บนโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต และเนื้อหาบนเว็บไซต์ ประกอบด้วย 1) หน้าหลัก 2) เกี่ยวกับหน่วยงาน 3) แผน/ผลการดำเนินงาน 4) ประกาศ/ระเบียบ 5) ดาวน์โหลด 6) คลังความรู้ และ 7) ปฏิทิน 2) เว็บไซต์มีสอดคล้องกับมาตรฐานเว็บไซต์ภาครัฐ เวอร์ชัน 2.0 จำนวน 26 ประเด็น คิดเป็นร้อยละ 92.86 และ 3) ผู้ใช้งานเว็บไซต์มีความพึงพอใจต่อการใช้งานเว็บไซต์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก (𝑥̅=4.21) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ผู้ใช้งานเว็บไซต์มีความพึงพอใจการใช้งานเว็บไซต์มากที่สุด คือ ด้านเนื้อหา อยู่ในระดับมากที่สุด (𝑥̅=4.52) รองลงมา คือ ด้านการออกแบบและ การจัดรูปแบบเว็บไซต์ อยู่ในระดับมาก (𝑥̅=4.44) และด้านประโยชน์และการนำไปใช้ อยู่ในระดับมาก (𝑥̅=4.39) ตามลำดับ</p>
2023-12-25T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025
https://so11.tci-thaijo.org/index.php/RMUTPR2R/article/view/1904
แอปพลิเคชันส่งข้อความแจ้งเตือนนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร “RMUTP SMART CARE”
2025-04-02T14:42:02+07:00
กฤตภ์ เลขมาศ, ณัฐภณ สุเมธอธิคม
surasit.l@rmutp.ac.th
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนาแอปพลิเคชันส่งข้อความสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครผ่านระบบไลน์ และ (2) ศึกษาความพึงพอใจต่อแอปพลิเคชันส่งข้อความสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครผ่านระบบไลน์ ซึ่งเป็นการวิจัยและพัฒนาแอปพลิเคชันส่งข้อความสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครผ่านระบบไลน์ และใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง<br>ที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร จำนวน 100 คน และสถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย (𝐱̅) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ผลการวิจัยพบว่า (1) ได้พัฒนาแอปพลิเคชันส่งข้อความสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครผ่านระบบไลน์ “RMUTP Smart Care” ใช้สำหรับแจ้งข้อมูลข่าวสารและกิจกรรมต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย และ (2) นักศึกษามีความพึงพอใจต่อแอปพลิเคชันส่งข้อความแจ้งเตือนนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร อยู่ในระดับมาก</p>
2023-12-25T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025