วารสารการเมืองท้องถิ่นและนวัตกรรมการศึกษา https://so11.tci-thaijo.org/index.php/JLPIE en-US วารสารการเมืองท้องถิ่นและนวัตกรรมการศึกษา แนวทางการสื่อสารแบรนด์บุคคล https://so11.tci-thaijo.org/index.php/JLPIE/article/view/1738 <p>การสื่อสารแบรนด์บุคคล (Personal Brand Communication) เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือและเสริมสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพต้องมีความชัดเจนและสอดคล้องกันในทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งจะช่วยให้บุคคลสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและสะท้อนคุณค่าของตนเองได้อย่างชัดเจนในสายตาของผู้รับสาร การเลือกใช้เครื่องมือการสื่อสารที่เหมาะสมและการเข้าใจพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างแบรนด์บุคคลที่มีความน่าเชื่อถือ การใช้ช่องทางดิจิทัล เช่น โซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ส่วนตัวช่วยขยายการเข้าถึงแบรนด์และสร้างโอกาสในการเติบโตทั้งในด้านอาชีพและธุรกิจ นอกจากนี้ การรักษาความสม่ำเสมอในการสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนและเพิ่มความน่าเชื่อถือของแบรนด์บุคคล</p> ฐปนนทิ์ พุ่มกล่อม นันท์นภัส ศรีผึ้ง ลิขสิทธิ์ (c) 2025 2024-12-29 2024-12-29 3 2 38 47 การจัดการการสื่อสารด้านนโยบายการสื่อสารผ่านเฟซบุ๊ก https://so11.tci-thaijo.org/index.php/JLPIE/article/view/1739 <p>การจัดการการสื่อสารด้านนโยบายการสื่อสารผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นหนึ่งในช่องทางการสื่อสารดิจิทัลที่ได้รับความนิยมและมีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ข้อมูลและนโยบายต่าง ๆ ขององค์กรหรือรัฐบาลผ่านสื่อออนไลน์ โดยการศึกษาเน้นการวิเคราะห์กลยุทธ์ที่ใช้ในการบริหารจัดการการสื่อสารบนเฟซบุ๊ก การวัดผลความสำเร็จของการสื่อสารนโยบาย รวมถึงการสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมจากผู้รับสาร ผลการศึกษาพบว่า เฟซบุ๊กสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการสื่อสารด้านนโยบาย หากมีการวางแผนการสื่อสารอย่างรอบคอบ ใช้เนื้อหาที่ชัดเจน สื่อสารได้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ</p> ธราทร ชาญแก่นจันทร์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 2024-12-29 2024-12-29 3 2 48 57 การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนตำบลหลักเขต อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ https://so11.tci-thaijo.org/index.php/JLPIE/article/view/1735 <p>รายงานวิจัยเรื่องการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ตำบลหลักเขต อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาระดับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ตำบลหลักเขต อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ 2. เพื่อเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ตำบลหลักเขต อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ และ 3. เพื่อให้ข้อเสนอแนะต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ตำบลหลักเขต อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา สถานภาพ และอาชีพ ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ ประชาชนในตำบลหลักเขต อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวนทั้งสิ้น 363 คน การสุ่มตัวอย่างแบบวิธีการสุ่มแบบอย่างง่าย โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการวิจัย การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติโดยการหาค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบ t-test และการวิเคราะห์ค่าความแปรปรวนแบบทางเดียว ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุระหว่าง 24-29 ปี ระดับการศึกษาปริญญาตรี สถานภาพโสด และอาชีพเกษตรกร 1. ระดับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ตำบลหลักเขต อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ พบว่า กลุ่มตัวอย่างมีระดับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ตำบลหลักเขต อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ โดยภาพรวม มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก 2. การเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ในตำบลหลักเขต อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า เพศ อายุ ระดับการศึกษา สถานภาพ และอาชีพ ที่แตกต่างกันมีส่วนร่วมทางการเมืองโดยรวม แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05</p> ประวิทย์ อินรัมย์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 2024-12-29 2024-12-29 3 2 1 12 ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ของห้างหุ้นส่วนจำกัด กวง 999 คอนสตรัคชั่น https://so11.tci-thaijo.org/index.php/JLPIE/article/view/1736 <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) ศึกษาระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยการปฏิบัติงานแบบ WORK FROM HOME ของห้างหุ้นส่วนจำกัด กวง 999 คอนสตรัคชั่น &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;2) ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ของห้างหุ้นส่วนจำกัด กวง 999 คอนสตรัคชั่น และ 3) ศึกษาข้อเสนอแนะ ปัญหาและอุปสรรค อื่น ๆ ต่อประสิทธิภาพ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ในการปฏิบัติงานแบบ WORK FROM HOME ในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ของห้างหุ้นส่วนจำกัด กวง 999 คอนสตรัคชั่น เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ ประชากรประกอบด้วย พนักงานของห้างหุ้นส่วนจำกัด กวง 999 คอนสตรัคชั่น จำนวน 113 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ซึ่งนำผลที่ได้มาวิเคราะห์ค่าทางสถิติโดยการแจกแจงความถี่ การหาร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานด้วยสถิติการทดสอบแบบค่าที สถิติวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และหากพบความแตกต่างจะนำไปเปรียบเทียบเป็นรายคู่โดยใช้วิธีของ LSD โดยทดสอบที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยการปฏิบัติงานแบบ WORK FROM HOME ของห้างหุ้นส่วนจำกัด กวง 999 คอนสตรัคชั่น อยู่ในระดับมาก 2) ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ของห้างหุ้นส่วนจำกัด กวง 999 คอนสตรัคชั่น อยู่ในระดับมาก และ 3) ปัญหาและอุปสรรค พบว่า พนักงานส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่ามีข้อจำกัดหรืออุปสรรคในส่วนอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานแบบ WORK FROM HOME ส่วนใหญ่เป็นคอมพิวเตอร์ และโน้ตบุ๊ค ที่ต้องใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ต และระบบงานของที่ทำงานที่ต้องนำมาใช้ในการปฏิบัติงาน</p> ชัชวาลย์ อินรัมย์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 2024-12-29 2024-12-29 3 2 13 27 คุณภาพการให้บริการขององค์กรส่วนท้องถิ่นจังหวัดน่าน https://so11.tci-thaijo.org/index.php/JLPIE/article/view/1737 <p>การศึกษาคุณภาพการให้บริการขององค์กรส่วนท้องถิ่นจังหวัดน่านมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินและวิเคราะห์คุณภาพการให้บริการขององค์กรส่วนท้องถิ่นในจังหวัดน่าน โดยเน้นการศึกษาความพึงพอใจของประชาชนที่ได้รับบริการจากองค์กรท้องถิ่น ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าคุณภาพการให้บริการขององค์กรส่วนท้องถิ่นในจังหวัดน่านมีการตอบสนองที่ดีในบางด้าน เช่น การให้บริการด้านสาธารณสุขและการบำรุงรักษาทางเท้า แต่ยังมีข้อบกพร่องในด้านการสื่อสารกับประชาชนและการเข้าถึงบริการทางออนไลน์ ซึ่งจะต้องได้รับการปรับปรุงในอนาคต</p> แดนไทย ต๊ะวิไชย ไชยา ประดิษฐธรรม สุพรรณนิกา ศรีพูล ลิขสิทธิ์ (c) 2025 2024-12-29 2024-12-29 3 2 28 37