วารสารสหวิทยาการสังคมศาสตร์และการบริหารงานยุติธรรม https://so11.tci-thaijo.org/index.php/JISSJA <p><em><strong>วารสารสหวิทยาการสังคมศาสตร์และการบริหารงานยุติธรรม </strong></em></p> <p><em><strong><span class="a_GcMg font-feature-liga-off font-feature-clig-off font-feature-calt-off text-decoration-none text-strikethrough-none">ISSN 3088-2532 (Online)</span></strong></em></p> <p>วารสารสหวิทยาการสังคมศาสตร์และการบริหารงานยุติธรรม เป็นวารสารที่มุ่งส่งเสริมการเผยแพร่ผลงานวิจัยและบทความวิชาการที่มีคุณภาพในสาขาวิชาสังคมศาสตร์และการบริหารงานยุติธรรม มีเป้าหมายในการเป็นแหล่งข้อมูลเชิงวิชาการที่ครอบคลุมและเป็นประโยชน์สำหรับนักวิจัย นักการศึกษา และผู้ปฏิบัติงานในวงการที่เกี่ยวข้องกับสังคมศาสตร์และการบริหารงานยุติธรรม โดยมีวัตถุประสงค์ (Aims) และขอบเขต (Scope) ดังนี้</p> <p><strong>วัตถุประสงค์ (</strong><strong>Aims)</strong></p> <ol> <li>เพื่อเผยแพร่บทความวิจัยและบทความวิชาการที่เกี่ยวข้องกับสังคมศาสตร์ กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม</li> <li>เพื่อเป็นเวทีวิชาการสำหรับนักวิชาการ นักวิจัย และผู้ปฏิบัติงานในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง</li> <li>เพื่อสนับสนุนการพัฒนาความรู้ใหม่ในมิติทางสังคมศาสตร์และกระบวนการยุติธรรม</li> <li>เพื่อกระตุ้นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและความร่วมมือทางวิชาการระหว่างบุคคลและองค์กรที่เกี่ยวข้อง</li> </ol> <p><strong>ขอบเขต (</strong><strong>Scope)</strong></p> <ol> <li>การวิจัยในสาขาสังคมศาสตร์ เช่น สังคมวิทยา มานุษยวิทยา เศรษฐศาสตร์ จิตวิทยาสังคม รัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์</li> <li>การศึกษาในด้านกฎหมายและการบริหารงานยุติธรรม อาทิ กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม อาชญาวิทยา การบังคับใช้กฎหมาย</li> <li>ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับนโยบายสาธารณะและผลกระทบทางสังคมจากการดำเนินงานด้านยุติธรรม</li> <li>การศึกษาเชิงเปรียบเทียบในระดับชาติและนานาชาติเกี่ยวกับระบบยุติธรรมและบริบททางสังคม</li> </ol> <p><strong>ประเภทบทความที่รับ (</strong><strong>Types of Articles)</strong></p> <ol> <li>บทความวิจัย (Research Articles)</li> <li>บทความวิชาการ (Academic Articles)</li> <li>บทความปริทัศน์ (Review Articles) </li> <li>บทความเชิงนโยบาย (Policy Articles) </li> <li>บทความวิจารณ์หนังสือ (Book Reviews) </li> <li>กรณีศึกษา (Case Studies) </li> </ol> <p><strong>กำหนดการออกเผยแพร่ (</strong><strong>Publication Frequency)</strong></p> <p>มีกำหนดการตีพิมพ์และเผยแพร่ปีละ 4 ฉบับ โดยแต่ละฉบับประกอบด้วยบทความจำนวน 8 บทความ รวมทั้งสิ้น 32 บทความต่อปี โดยมีรายละเอียดกำหนดการ ดังนี้</p> <ol> <li>ฉบับที่ 1: มกราคม - มีนาคม </li> <li>ฉบับที่ 2: เมษายน - มิถุนายน </li> <li>ฉบับที่ 3: กรกฎาคม - กันยายน</li> <li>ฉบับที่ 4: ตุลาคม - ธันวาคม</li> </ol> <p> <strong>ค่าธรรมเนียมการเสนอบทความเพื่อตีพิมพ์</strong></p> <p> ไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการเสนอบทความเพื่อตีพิมพ์หรือค่าตีพิมพ์เผยแพร่บทความในวารสาร ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนการเผยแพร่ผลงานวิชาการและการวิจัยให้กว้างขวาง และเพื่อส่งเสริมโอกาสทางวิชาการแก่ผู้เขียนทุกกลุ่ม โดยไม่มีข้อจำกัดด้านค่าใช้จ่าย ผู้เขียนสามารถส่งบทความได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่กระบวนการพิจารณาจนถึงการตีพิมพ์ในวารสาร</p> <p>วารสารสหวิทยาการสังคมศาสตร์และการบริหารงานยุติธรรม ใช้กระบวนการตรวจสอบความถูกต้องทางวิชาการ (Peer Review) อย่างเข้มงวดก่อนการตีพิมพ์เผยแพร่ โดยมีรายละเอียดดังนี้</p> <ol> <li>ใช้รูปแบบ Double-Blind Review ซึ่งผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แต่งบทความจะไม่ทราบชื่อกันและกัน เพื่อให้การประเมินเป็นกลาง ปราศจากอคติ และเน้นความถูกต้องเชิงวิชาการ</li> <li>บทความทุกเรื่องจะถูกตรวจสอบโดย ผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก ที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้องจากหลากหลายสถาบัน</li> <li>จำนวนผู้ทรงคุณวุฒิที่ทำการประเมินบทความ คือ 3 คน</li> </ol> Medical law professional and wellness association th-TH วารสารสหวิทยาการสังคมศาสตร์และการบริหารงานยุติธรรม บทความนี้ได้รับการเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) ซึ่งอนุญาตให้ผู้อื่นสามารถแชร์บทความได้โดยให้เครดิตผู้เขียนและห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าหรือดัดแปลง หากต้องการใช้งานซ้ำในลักษณะอื่น ๆ หรือการเผยแพร่ซ้ำ จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากวารสาร หน้าปกวารสาร https://so11.tci-thaijo.org/index.php/JISSJA/article/view/2719 <p>-</p> รศ.ดร.อัคคกร ไชยพงษ์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-09-30 2025-09-30 1 3 ปกหลังวารสาร https://so11.tci-thaijo.org/index.php/JISSJA/article/view/2724 <p>-</p> อัคคกร ไชยพงษ์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-09-30 2025-09-30 1 3 ส่วนหน้าวารสาร https://so11.tci-thaijo.org/index.php/JISSJA/article/view/2720 <p>-</p> อัคคกร ไชยพงษ์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-09-30 2025-09-30 1 3 บทบรรณาธิการ https://so11.tci-thaijo.org/index.php/JISSJA/article/view/2721 <p>-</p> อัคคกร ไชยพงษ์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-09-30 2025-09-30 1 3 สารบัญ https://so11.tci-thaijo.org/index.php/JISSJA/article/view/2722 <p>-</p> อัคคกร ไชยพงษ์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-09-30 2025-09-30 1 3 การสร้างสรรค์และออกแบบตราสัญลักษณ์การแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ : กรณีศึกษาซีเกมส์ปี 2007 และเอเชี่ยนบีชเกมส์ปี 2014 https://so11.tci-thaijo.org/index.php/JISSJA/article/view/2322 <p>การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา ระบบความคิดสร้างสรรค์การออกแบบตราสัญลักษณ์ การแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ โดยศึกษาปัจจัยและกระบวนการสร้างสรรค์ตราสัญลักษณ์ ซึ่งสามารถอธิบายผ่านแนวคิดระบบความคิดสร้างสรรค์ (A systems of creativity) ของ Csikszentmihalyi โดยวิเคราะห์แหล่งข้อมูลที่ได้จากผู้เชี่ยวชาญการสร้างสรรค์ตราสัญลักษณ์ระดับนานาชาติ และผู้ควบคุมการ จัดงานการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ</p> <p>ผลการศึกษาพบว่า ในกระบวนการความคิดสร้างสรรค์ของผู้สร้างสรรค์ตราสัญลักษณ์หนึ่ง ๆ จะต้องอิงอาศัยองค์ความรู้ (Domain) ด้านการออกแบบ ประกอบกับทักษะของบุคคล (Person) ในการตีความโจทย์และเลือกใช้สี ตัวอักษร และจัดวางรูปแบบ การนำเสนอเรื่องราวผ่านตราสัญลักษณ์ ที่อยู่ภายใต้การกำกับของผู้มีอำนาจในการตัดสิน (Field) ในที่นี้คือ เจ้าภาพการจัดการแข่งขัน ภายใต้โจทย์ที่ต้องการ ซึ่งสามารถนำไปสู่การประยุกต์ใช้ เพื่อสื่อสารอัตลักษณ์และสัญญะต่าง ๆ ของงานสร้างสรรค์ด้านการออกแบบตราสัญลักษณ์ด้านกีฬาอื่น ๆ ต่อไป</p> <p> </p> ธัชหทัยพัชร์ พัทธศิรวัต ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสหวิทยาการสังคมศาสตร์และการบริหารงานยุติธรรม https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-09-30 2025-09-30 1 3 1 10 การพัฒนาการเยียวยาของผู้เสียหายในคดีอาญา https://so11.tci-thaijo.org/index.php/JISSJA/article/view/2320 <p>การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) สภาพปัญหา แนวคิด และทฤษฎีที่เกี่ยวกับขอบเขตความเสียหายการเยียวยาของผู้เสียหายในคดีอาญา 2) กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการเยียวยาของผู้เสียหายในคดีอาญาของต่างประเทศและประเทศไทย และ 3) เสนอแนวทางในพัฒนาขอบเขตความเสียหายการเยียวยาของผู้เสียหายในคดีอาญา เป็นการศึกษาเชิงคุณภาพ ด้วยการศึกษาค้นคว้าข้อมูลจากหนังสือ ตำรา บทความ วิชาการ งานการศึกษาเชิงคุณภาพและเอกสาร โดยนำข้อมูลมาวิเคราะห์ สังเคราะห์และใช้วิธีเรียบเรียงแบบพรรณนาความ เพื่อให้การศึกษาฉบับนี้มีความสมบูรณ์และมีส่วนช่วยพัฒนากฎหมายการเยียวยาผู้เสียหาย</p> <p>ผลการศึกษาพบว่า 1) แม้ว่าประเทศไทยจะมีพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 และกฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และอัตราในการจ่ายค่าตอบแทนฯ พ.ศ. 2546 เพื่อเป็นกลไกทางกฎหมายในการเยียวยาผู้เสียหาย แต่ในทางปฏิบัติกลับพบว่า ยังไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้เสียหายได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม เนื่องจากการเยียวของไทยยังมีข้อจำกัด ซึ่งมีปัญหาประการหนึ่งที่สำคัญ คือ ปัญหาด้านขอบเขตของความเสียหายที่ได้รับการชดเชยและความล่าช้าในกระบวนการพิจารณา ซึ่งมีสาเหตุมาจากความซับซ้อนของขั้นตอนการพิสูจน์สิทธิ การประสานงานระหว่างหน่วยงานที่ขาดประสิทธิภาพ และข้อจำกัดด้านบุคลากร 2) กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการเยียวยาผู้เสียหายในคดีอาญา ได้แก่ พระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544</p> <p>ผู้ศึกษามีข้อเสนอแนะ ดังนี้ การปฏิรูประบบการเยียวยาผู้เสียหายทั้งในด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมอันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนากระบวนการยุติธรรมทางอาญาของประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับหลักสากล ดังนี้ (1) ด้านขอบเขตความเสียหายในการเยียวยา ควรมีการปรับขยายขอบเขตในครอบคลุมถึงด้านจิตใจด้วย โดยการปรับเพดานอัตราการเยียวยาขยายให้กว้างขึ้นเพื่อให้ครอบคลุมในทุก ๆ ด้าน (2) จัดตั้งกองทุนเยียวยาไว้โดยเฉพาะจากเงินค่าปรับและทรัพย์สินที่ริบได้จากอาชญากรรมตามแนวทางของพระราชบัญญัติคุ้มครองเหยื่ออาชญากรรม พ.ศ. 2527 (Victims of Crime Act of 1984 (VOCA)) สหรัฐอเมริกา ใช้เงินค่าปรับและเงินที่ได้จากการยึดทรัพย์ของผู้กระทำผิดมาเป็นแหล่งรายได้สำหรับกองทุนเยียวยาโดยเฉพาะ ไทยสามารถนำแนวคิดนี้มาใช้โดยจัดตั้ง “กองทุนเพื่อการเยียวยาผู้เสียหายจากคดีอาญา” ที่มีรายได้จากแหล่งถาวร (3) ส่งเสริมสิทธิของผู้เสียหายในกระบวนการยุติธรรมสหรัฐอเมริกามีการรับรอง “สิทธิของเหยื่อ” อย่างชัดเจน</p> นันทนา ทวยเจริญ อัคคกร ไชยพงษ์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสหวิทยาการสังคมศาสตร์และการบริหารงานยุติธรรม https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-09-30 2025-09-30 1 3 11 24 กระบวนการยุติธรรมในยุคดิจิทัล https://so11.tci-thaijo.org/index.php/JISSJA/article/view/2588 <p>เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนโลกของกระบวนการยุติธรรม จึงมีความจำเป็นที่กระบวนการยุติธรรมที่ต้องปรับตัวเพื่อตอบสนองกับความเปลี่ยนแปลงของโลก เราจึงต้องเข้าใจและมองไปข้างหน้าเพื่อทำให้กระบวนการยุติธรรรมปรับเปลี่ยนไปให้ทันความเปลี่ยนแปลงของโลก เทคโนโลยีอาจจะเข้ามาแทนระบบการทำงานเกือบทุกอย่าง ส่งผลให้เกิดความท้าทายที่จะต้องทำงานในกระบวนการยุติธรรมผ่านระบบเทคโนโลยีดิจิทัลทั้งหมด ด้วยเหตุนี้กระบวนการยุติธรรมในยุคดิจิทัลจึงเป็นประเด็นสำคัญที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของระบบกฎหมายและสังคม เนื่องจากเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในการบริหารงานยุติธรรมทุกระดับ ตั้งแต่การเข้าถึงข้อมูลกฎหมาย การดำเนินคดีผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ไปจนถึงการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการวิเคราะห์คดี ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความโปร่งใส และการเข้าถึงสิทธิของประชาชน</p> <p>ดังนั้น บทความนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์แนวทางการในปรับตัวของกระบวนการยุติธรรมโดยศึกษาจากบริบทของต่างประเทศ ซึ่งได้กำหนดกรอบการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการพิจารณาคดีและ การบริหารงานยุติธรรม เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับระบบยุติธรรมไทย โดยมุ่งเน้นการสร้างสมดุลระหว่างประสิทธิภาพ ความโปร่งใส และการคุ้มครองสิทธิของประชาชน และสามารถก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี</p> พรทิพย์ เตชะสมบูรณากิจ ภูริวัจน์ ปุณยวุฒิปรีดา ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสหวิทยาการสังคมศาสตร์และการบริหารงานยุติธรรม https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-09-30 2025-09-30 1 3 25 34 การศึกษาแนวคิดทฤษฎีอาชญาวิทยาเพื่อแก้ปัญหาการกระทำผิดของเด็กและเยาวชน https://so11.tci-thaijo.org/index.php/JISSJA/article/view/2319 <p>บทความวิชาการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ค้นหาแนวทางในการหาสาเหตุและการป้องกันการกระทำผิดของเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะกรณีก่อการทะเลาะวิวาทของนักศึกษาทั้งในสถาบันเดียวกันและระหว่างสถาบันการศึกษา โดยใช้การวิเคราะห์ตามหลักการของทฤษฎีอาชญาวิทยาเพื่อหาสาเหตุและ นำหลักการของทฤษฎีอาชญาวิทยาเป็นแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกระทำผิดของเด็ก และเยาวชน โดยในการศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ประเภทวิจัยเอกสาร (Documentary Research)</p> <p>ผลการศึกษาพบว่า หลักการของทฤษฎีอาชญาวิทยาที่นำมาศึกษาและประยุกต์ใช้ในการป้องกันการกระทำผิดของเด็กและเยาวชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ ทฤษฎีวัฒนธรรมรอง ทฤษฎีพันธะทางสังคม ทฤษฎีชุมชนสัมพันธ์และทฤษฎีบังคับใช้กฎหมาย ทำให้ได้แนวทางหรือมาตรการในการป้องกันการกระทำผิดหรือการแก้ไขปัญหากระทำผิดของเด็กและเยาวชน ได้แก่ การนำแนวคิดทฤษฎีทั้ง 4 ทฤษฎีมาประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหา การจัดตั้งองค์กรกลางในด้านการประสานงานให้ความคุ้มครองเด็กและเยาวชน การร่วมมือขององค์กรภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อประโยชน์ของเด็กและเยาวชน การจัดตั้งคณะผู้ตรวจการเด็กแห่งชาติ และการแก้ไขปัญหาร่วมกันของหน่วยงานที่ใกล้ชิดเด็กและเยาวชนมากที่สุดในพื้นที่ ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งการบรรจุแต่งตั้งบุคลากรทางการศึกษาที่มีความรู้ด้านอาชญาวิทยา จิตวิทยาที่สามารถแก้ปัญหาให้เด็กและเยาวชนได้ทันท่วงที และสามารถวางโปรแกรมการแก้ไขปัญหาการกระทำผิดของเด็กและเยาวชนได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย เป็นต้น</p> <p> ผู้เขียนมีข้อเสนอแนะ ดังนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการทำผิดของเด็กเยาวชนโดยเฉพาะหน่วยงานหลักซึ่งอยู่ใกล้ชิดกับการกระทำผิดของเด็กและเยาวชนมากที่สุด ได้แก่ โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา สถานีตำรวจ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงจังหวัดของมนุษย์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาอยู่ในเขตรับผิดชอบร่วมกันนำหลักการของทฤษฎีอาชญาวิทยามาเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา และต้องร่วมมือกับตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามประเมินผลร่วมกันและระวังปัญหาการกระทำผิดของเด็กและเยาวชนต่อไป</p> อชิรญาณ์ กลัดสวัสดิ์ ปรีชา กลัดสวัสดิ์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสหวิทยาการสังคมศาสตร์และการบริหารงานยุติธรรม https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-09-30 2025-09-30 1 3 35 50 การฟอกเงินโดยผ่านสกุลเงินดิจิทัล : แนวคิดทฤษฎี https://so11.tci-thaijo.org/index.php/JISSJA/article/view/2571 <p>การฟอกเงิน เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงทางการเงินของนานาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีทางการเงินได้พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด การเกิดขึ้นของสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) และระบบบล็อกเชน (Blockchain) ได้สร้างทั้งโอกาสและความท้าทาย กล่าวคือ ในด้านหนึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวช่วยส่งเสริมความสะดวก รวดเร็ว และลดต้นทุนในการทำธุรกรรม แต่อีกด้านหนึ่งกลับเปิดช่องให้เกิดการฟอกเงินในรูปแบบใหม่ที่ซับซ้อน และยากต่อติดตามและการตรวจสอบ</p> <p>บทความนี้ จึงมุ่งศึกษารูปแบบการฟอกเงินโดยผ่านสกุลดิจิทัล โดยวิเคราะห์การฟอกเงินโดยผ่านสกุลเงินดิจิทัลผ่านแนวคิดและทฤษฎีที่มีความเกี่ยวข้อง อาทิ ทฤษฎีการสมคบ (Conspiracy Theory) ทฤษฎีการช่วยเหลือและสนับสนุน (Aiding and Abetting Theory) ทฤษฎีแรงจูงใจ (Motivation) ทฤษฎีความต้องการตามแนวความคิดของมาสโลว์ (Maslow) ทฤษฎีป้องกันอาชญากรรม (Due Process Model) และทฤษฎีควบคุมอาชญากรรม (Crime Control Theory) เพื่อทำความเข้าใจการฟอกเงินผ่านสกุลเงินดิจิทัล และสามารถออกแบบมาตรการกำกับดูแลที่เหมาะสมได้อย่างมีปประสิทธิภาพ ตลอดจนสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางการเงินในโลกดิจิทัล อันจะนำไปสู่การรักษาสมดุลระหว่างการส่งเสริมนวัตกรรมและการคุ้มครองความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ของสังคม</p> ณัฏฐณิชา ยิ้มซ้าย ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสหวิทยาการสังคมศาสตร์และการบริหารงานยุติธรรม https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-09-30 2025-09-30 1 3 51 64 มาตรการทางกฎหมายในการบริหารงบประมาณของกรุงเทพมหานครภายใต้พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 https://so11.tci-thaijo.org/index.php/JISSJA/article/view/2479 <p>บทความวิชาการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา มาตรการทางกฎหมายในการบริหารงบประมาณของกรุงเทพมหานครภายใต้พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 โดยเน้นการวิเคราะห์จากเอกสารทางวิชาการ กฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำความเข้าใจถึงกรอบกฎหมายที่กำหนดวินัยการเงินการคลัง ความโปร่งใส และประสิทธิภาพในการใช้จ่ายงบประมาณ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการพัฒนาเมืองหลวงและคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร</p> <p>ผลการศึกษาพบว่า พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ได้สร้างกรอบและมาตรฐานใหม่ในการบริหารงบประมาณของกรุงเทพมหานครในฐานะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ โดยเน้นความรับผิดชอบ ความโปร่งใส และการใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ กฎหมายดังกล่าวส่งผลให้กรุงเทพมหานครต้องปรับเปลี่ยนวิธีการจัดสรรและบริหารงบประมาณในหลายมิติ ทั้งด้านโครงสร้างการบริหารจัดการ การจัดลำดับความสำคัญของโครงการ และการตรวจสอบการใช้จ่าย เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการและความคาดหวังของประชาชนได้อย่างเหมาะสมและทั่วถึง</p> <p>ผู้ศึกษาจึงมีข้อเสนอแนะว่า กรุงเทพมหานครควรพัฒนาระบบการบริหารงบประมาณให้สอดคล้องกับกรอบกฎหมายใหม่ โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างประสิทธิภาพและความโปร่งใสในทุกขั้นตอนของการดำเนินงาน ควรมีการปรับปรุงโครงสร้างองค์กรและเพิ่มขีดความสามารถของบุคลากรด้านการเงินการคลัง เพื่อให้การใช้งบประมาณมีความสมดุลและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน นอกจากนี้ควรส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ในการตรวจสอบและกำหนดทิศทางการพัฒนา เพื่อให้การบริหารงบประมาณของกรุงเทพมหานครเป็นไปอย่างยั่งยืนและตอบโจทย์ความเจริญเติบโตของเมืองอย่างแท้จริง</p> สุทธิชัย วีรกุลสุนทร ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสหวิทยาการสังคมศาสตร์และการบริหารงานยุติธรรม https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-09-30 2025-09-30 1 3 65 78 มาตรการทางกฎหมายในการส่งเสริมอุตสาหกรรมผลิตและ จำหน่ายอาวุธปืนภาคเอกชน https://so11.tci-thaijo.org/index.php/JISSJA/article/view/2478 <p>อุตสาหกรรมอาวุธปืน มีความสำคัญทั้งในด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก อุตสาหกรรมนี้มีส่วนในการสร้างงาน สร้างรายได้ และพัฒนาเทคโนโลยี รวมถึงมีบทบาทสำคัญในการรักษาความมั่นคงของชาติและศักยภาพทางการทหาร ปัจจุบันรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเห็นถึงความสำคัญของภาคเอกชนในกิจการ อุตสาหกรรมจึงมีนโยบายที่จะส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศแบบบูรณาการทั้งระบบ ปัจจุบันรัฐบาลได้ทำการส่งเสริมและสนับให้เอกชนจัดตั้งการผลิตอาวุธเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระทางการผลิตของทางราชการตามพระราชบัญญัติโรงงานผลิตอาวุธของเอกชน พ.ศ. 2550 อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังมีประเด็นปัญหาที่ทำให้อุตสาหกรรมป้องกันประเทศไม่สามารถเดินหน้าได้อย่างเต็มกำลัง เนื่องจากกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในปัจจุบันเป็นกฎหมายที่ถูกร่างมาตั้งแต่ประเทศไทยยังไม่มีภาคอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ขาดความทันสมัย ไม่เข้ากับสถานการณ์ทำให้เป็นข้อจำกัดในการบริหารงานด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ รวมถึงปัญหาด้านการส่งเสริมสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของภาคเอกชนซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ส่งกระทบต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิต และจำหน่ายอาวุธปืน แม้ภาครัฐจะให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ กับภาคเอกชน แต่ด้วยระเบียบบางประการทำให้ภาคอุตสาหกรรมป้องกันประเทศไม่สามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ดังกล่าวได้</p> <p>ดังนั้น บทความนี้มุ่งศึกษามาตรการทางกฎหมายที่จำเป็นต่อการส่งเสริมภาคเอกชนในอุตสาหกรรมผลิตและจำหน่ายอาวุธปืนภาคเอกชน โดยศึกษาจากเอกสารทางวิชาการ กฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง และศึกษาจากกฎหมายของต่างประเทศ เพื่อเสนอแนวทางปรับปรุงมาตรการทางกฎหมายที่เหมาะสมกับบริบทไทยในการส่งเสริมอุตสาหกรรมผลิต และจำหน่ายอาวุธปืนภาคเอกชน</p> เชิดชัย บุญแดนไพร ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสหวิทยาการสังคมศาสตร์และการบริหารงานยุติธรรม https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-09-30 2025-09-30 1 3 79 88 มาตรการทางกฎหมายในการเยียวยาผู้เสียหายจากการกระทำทางปกครอง โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย https://so11.tci-thaijo.org/index.php/JISSJA/article/view/2480 <p>การกระทำทางปกครองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นปัญหาที่กระทบสิทธิของประชาชนโดยตรง เนื่องจากเป็นการใช้อำนาจรัฐที่ไม่ถูกต้องและอาจสร้างความเสียหายแก่บุคคลหรือองค์กรเอกชน ดังนั้น มาตรการทางกฎหมายในการเยียวยาผู้เสียหายจึงมีความสำคัญต่อการคุ้มครองสิทธิและเสริมสร้างหลัก นิติธรรม การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ (1) วิเคราะห์มาตรการทางกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันสำหรับการเยียวยาผู้เสียหายจากการกระทำทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย (2) แนวทางและกลไกการเยียวยาในต่างประเทศเพื่อนำมาเปรียบเทียบ และ (3) เสนอแนวทางปรับปรุงกฎหมายและกระบวนการเยียวยาให้เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย เป็นการศึกษาเชิงคุณภาพ ผู้ศึกษาได้ใช้วิธีการศึกษาเชิงเอกสาร โดยอาศัยการค้นคว้าข้อมูลจากเอกสารที่เป็นภาษาไทย รวมทั้งหาข้อมูลทางเว็ปไซด์ที่สามารถเข้าถึงง่ายและเป็นเหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ อันเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่องานวิจัย ตลอดจนศึกษาหนังสือ ตำรา เอกสารคำสอน งานวิจัย รายงานการศึกษา วิทยานิพนธ์ บทความทางวิชาการ บทความวิจัย ทั้งที่เป็นหนังสือ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์</p> <p><strong> </strong>ผลการศึกษาพบว่า แม้กฎหมายไทยจะมีมาตรการเยียวยาผู้เสียหายจากการกระทำทางปกครอง อาทิ การเพิกถอนคำสั่งทางปกครอง การขอคุ้มครองชั่วคราว หรือการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 แต่กระบวนการดังกล่าวยังมีข้อจำกัดหลายประการ ได้แก่ ขั้นตอนที่ซับซ้อน ระยะเวลาการพิจารณาที่ยาวนาน และการกำหนดหลักเกณฑ์ค่าสินไหมทดแทนที่ไม่ชัดเจนเมื่อเทียบกับมาตรฐานสากล ในขณะที่ประเทศคู่เปรียบเทียบมีระบบการเยียวยาที่รวดเร็วและยืดหยุ่นกว่า</p> <p>ผู้ศึกษาจึงมีข้อเสนอแนะ ดังนี้ ควรปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องให้มีความชัดเจนและเป็นระบบ เช่น การกำหนดหลักเกณฑ์การชดใช้ค่าสินไหมทดแทนที่เหมาะสม การเพิ่มมาตรการเยียวยาทางเลือก เช่น การไกล่เกลี่ยหรือการชดเชยโดยตรงจากหน่วยงานรัฐ และการพัฒนากระบวนการคุ้มครองชั่วคราวให้รวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ ควรเสริมสร้างความรู้และความตระหนักแก่เจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวกับความรับผิดชอบทางปกครองเพื่อลดการละเมิดสิทธิของประชาชน ดังนั้น บทความนี้มุ่งศึกษามาตรการทางกฎหมายที่มีอยู่ในประเทศไทยเพื่อเยียวยาผู้เสียหายจากการกระทำทางปกครองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยศึกษาจากเอกสารทางวิชาการ กฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง และศึกษาจากกฎหมายของต่างประเทศ เพื่อเสนอแนวทางปรับปรุงกฎหมายและเสนอแนะมาตรการทางกฎหมายในการเยียวยาผู้เสียหายจากการกระทำทางปกครองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย</p> วีรยุทธ บุญทอง ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสหวิทยาการสังคมศาสตร์และการบริหารงานยุติธรรม https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-09-30 2025-09-30 1 3 89 102 คำแนะนำสำหรับผู้เขียน https://so11.tci-thaijo.org/index.php/JISSJA/article/view/2723 <p>-</p> อัคคกร ไชยพงษ์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-09-30 2025-09-30 1 3 103 110